วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หยุดเลือดกำเดาไหลได้อย่างไร

 หยุดเลือดกำเดาไหลได้อย่างไร
เลือดกำเดาไหลนั้นเป็นภาวะที่พบได้และเกิดขึ้นได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย   ทั้งในเด็ก  วัยรุ่น  ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ   เลือดกำเดาไหลมักสร้างความตกใจ  วิตกกังวลให้ตัวผู้ป่วยเองและคนใกล้ชิดได้   ภาวะเลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเยื่อบุจมูกข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้     ในเด็กและผู้ที่อายุน้อยมักออกจากส่วนหน้าของจมูก     ถ้าออกจากส่วนหลังจมูกมักพบในผู้สูงอายุ     สาเหตุของเลือดกำเดาไหลมี 2 กลุ่มใหญ่คือ

                              กลุ่มแรก    มาจากเฉพาะบริเวณจมูก    ได้แก่    การบาดเจ็บต่อจมูก     เป็นสาเหตุของเลือดกำเดาไหลที่พบบ่อย    เกิดจากการถู   แคะ   สั่งน้ำมูกแรง ๆ   ได้รับอุบัติเหตุบริเวณศีรษะและกระดูกใบหน้า   การเปลี่ยนแปลงความกดดันอากาศอย่างรวดเร็ว     เช่น    การขึ้นเครื่องบิน    การอักเสบในช่องจมูกจากการเป็นหวัด   โรคภูมิแพ้     เนื้องอกบริเวณจมูก   ไซนัสและโพรงหลังจมูก     ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีเลือดกำเดาไหลปริมาณมากหรือเป็นซ้ำ ๆ    นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากการผิดรูปของผนังกั้นช่องจมูก    รวมทั้งภาวะอากาศเย็น   ความชื้นต่ำทำให้เยื่อบุจมูกแห้งจึงมีเลือดไหลออกจากจมูกได้ง่าย  
                              กลุ่มที่สอง    เกิดจากโรคอื่น ๆ     เช่น     โรคเบาหวานซึ่งจะพบมีน้ำตาลในเลือดสูง    และโรคความดันโลหิตสูงจะมีผลทำให้เส้นเลือดเปราะและแตกง่าย    โรคไต    เช่น   ไตวายเรื้อรังจะทำให้เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติไป    ผู้ป่วยที่กินยาบางประเภท   เช่น   ยาแก้ปวดบางชนิด   ยาแอสไพริน   ยาละลายลิ่มเลือด  ยาเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ   นอกจากนี้ยังพบในภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ   เช่น   โรคตับแข็ง    โรคเลือดต่าง ๆ

                              การดูแล      ให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้น    ใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือบีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่นประมาณ 5 - 10 นาทีโดยหายใจทางปากแทน   นอนพัก  ยกศีรษะสูง  นำน้ำแข็งมาประคบบริเวณหน้าผากหรือดั้งจมูกประมาณ 10 นาที   ถ้าเลือดไม่หยุดควรไปพบแพทย์  หลังเลือดกำเดาหยุดไหลภายใน 1 - 2 วันควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก   การยกของหนัก    การเล่นกีฬาที่หักโหมหรือกลางแดดเพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้อีก    สำหรับผู้ป่วยที่กินยาควรหลีกเลี่ยงยาแอสไพริน  ยาละลายลิ่มเลือด   เพราะยาเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ   ควรกินอาหารที่มีวิตามินเคสูงซึ่งพบในผักใบเขียวทุกชนิด   ผักกาดขาว   แครอท   น้ำมันตับปลา   ตับ   เนยแข็ง   ไข่ขาว   ถั่วหมัก   และกินผัก  ผลไม้สดที่มีวิตามีนซีซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น