วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรื่องของความเครียด

เรื่องของความเครียด


เรื่องของความเครียด
ความเครียด  เป็นปฏิกิริยาของร่างกายและจิตใจที่มีต่อสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้น   เพื่อให้ร่างกายเกิดการตอบสนอง   จึงเกิดอาการต่างๆ  เช่น  หัวใจเต้นแรง เร็ว ใจสั่น  เหงื่อออก  มือเท้าเย็น  กระวนกระวาย ปวดหัว และอื่นๆ
สิ่งกระตุ้น หรือสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดความเครียดในแต่ละคนจะแตกต่างกันไป  ได้แก่
1. สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น  เสียงที่ดังเกินไป  อากาศเสียเพราะกลิ่น หรือฝุ่นควันต่างๆ  น้ำเสีย  การอยู่กันอย่างแออัด ยัดเยียด  การจราจรที่ติดขัด  เป็นต้น
2. สภาพเศรษฐกิจที่ไม่น่าพอใจ  เช่น รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
3. สภาพทางสังคม  เช่น สัมพันธภาพกับคนรอบข้างไม่ดี เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะ เบาะแว้งเป็นประจำ   เกิดการแข่งขันกันสูง   เช่น การเข้าเรียน   เข้าทำงานใหม่  การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง  


4. พฤติกรรมส่วนตัวที่ส่งเสริมความเครียด  เช่น ชอบการแข่งขันสูง ต้องการมีอำนาจเหนือคนอื่น หรือรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น  ต้องต่อสู้เอาชนะ    เป็นคนเข้มงวดเอาจริงเอาจังในทุกเรื่อง  ไม่มีการผ่อนปรน  อารมณ์รุนแรง  ใจร้อน  ชอบทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน หรือกินอาหารที่ส่งเสริมความเครียด  เช่น  อาหารน้ำตาลมาก  ดื่มกาแฟ  สูบบุหรี่  ดื่มเหล้า  เป็นต้น
ความเครียด มีทั้งประโยชน์และโทษ  เมื่อคนเราอยู่ในภาวะตึงเครียดร่างกายจะเตรียมพร้อมที่จะ สู้” หรือ หนี” หัวใจจะเต้นเร็วและแรงขึ้น  หายใจเร็ว เหงื่อออก  ม่านตาขยาย   กล้ามเนื้อหดเกร็งเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหว   เมื่อช่วงเวลาวิกฤตผ่านไปร่างกายจะกลับสู่สภาพปกติ    แต่ความเครียดที่เกิดโทษ คือ “ความเครียดเรื้อรัง”  ที่ส่วนใหญ่เกิดจากอุปนิสัยส่วนตัวและสภาพทางสังคม  เป็นความเครียดที่เกิดขึ้นแล้วยังคงอยู่ และอาจสะสมมากขึ้นจนเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต    เกิดอาการต่างๆ  เช่น  ปวดหัว  ปวดท้อง  จุกแน่นท้อง  ท้องเสียหรือท้องผูก เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน  อ่อนเพลีย  หายใจไม่อิ่ม  ใจสั่น  มึนงง  นอนไม่หลับ  ขี้ลืม สมาธิสั้น หงุดหงิด  วิตกกังวล  ท้อแท้ ซึมเศร้าหรืออื่นๆ  ผู้ที่มีความเครียดจึงจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีคลายเครียดด้วยตนเอง  ซึ่งจะทำให้ผ่อนคลายชีวิตมีความสุขขึ้น วิธีการคลายเครียดมีหลายอย่าง  ได้แก่
Ø การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น หางานอดิเรกที่ชอบทำ  การฝึกการหายใจ  ฝึกสมาธิ  การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ  การนวด  การใช้จินตนาการ  การออกกำลังกายแบบง่ายๆ   เป็นต้น
Ø เปลี่ยนทัศนคติตนเองต่อการดำเนินชีวิต  เช่น  การมองในแง่บวก   ลดการแข่งขัน  รู้จักผ่อนปรนในเรื่องต่างๆ  เป็นต้น
Ø เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่ส่งเสริมความเครียดและหลีกเลี่ยง
การคลายเครียดด้วยตนเอง   ดีที่สุดคือ การแก้ไขที่ต้นเหตุค่ะ   แต่หากทำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น   ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น