วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

ผื่นลมพิษอาจเกิดในช่วงอากาศหนาวได้


ผื่นลมพิษ  คือผื่นที่มีลักษณะเป็นปื้นนูนแดง และคันมาก  มีขนาดต่างๆ กัน ไม่มีขุย  เกิดขึ้นเร็ว   กระจายตามตัว แขนหรือขา    มักเป็นอยู่ไม่นาน ส่วนมากไม่เกิน วัน ก็อาจหายไปเองได้ โดยไม่มีร่อง รอยอะไร   แต่ก็อาจมีผื่นใหม่เกิดขึ้นในที่อื่นๆ อีกได้ 
   
ผื่นลมพิษที่เกิดขึ้นในแต่ละคน อาจมีสาเหตุแตกต่างกัน   เช่น  บางคนพออากาศหนาวเย็น ก็จะมีผื่นขึ้น  ขณะที่บางคนเกิดผื่นลมพิษจากความร้อน  เช่น จะเกิดลมพิษขึ้นทุกครั้งเมื่อเล่นกีฬาจนเหงื่อออก  บางคนผื่นลมพิษขึ้นบริเวณที่ถูกเข็มขัดหรือยางยืดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ กดรัดแน่นเกินไป   บางคนเกิดจากการแพ้อาหารหรือสิ่งที่ผสมอยู่ในอาหาร  พวกสารแต่งกลิ่น  รส  สีผสมอาหาร  สารกันบูด หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ  บางคนเกิดจากการแพ้ยา   โดยยาทุกชนิดมีโอกาสทำให้เกิดลมพิษได้ทั้งสิ้น   ยาบางชนิดผู้ป่วยก็อาจนึกไม่ถึง เช่น  วิตามิน  ยาถ่าย  ยาระบาย  ยาหยอดหู หยอดตา หรือยาแผนโบราณต่างๆ  เป็นต้น   บางคนเกิดผื่นลมพิษเพราะติดเชื้อต่างๆ    ที่พบบ่อยคือการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน   เช่น  หวัด   ทอนซิลอักเสบ  ไซนัสอักเสบ  เป็นต้น 
    

ผู้ที่เป็นผื่นลมพิษไม่ควรเกาผิวหนังอย่างรุนแรงเพราะอาจทำให้เป็นแผลและอักเสบได้ หากมีอาการคันมาก  อาจใช้คาลามายน์โลชั่นทาบริเวณผื่นเพื่อลดอาการคันได้  แต่ยานี้ไม่ทำให้ผื่นหาย     ผู้ที่เป็นรุนแรงพบได้น้อยมาก  ผื่นจะขึ้นพร้อมๆ กันทั่วตัว รวมทั้งที่หน้า  ตา ปาก   อาจมีอาการแน่นหน้าอก  หายใจไม่อิ่ม ควรรีบพบแพทย์ เพราะเยื่อบุทางหายใจอาจบวม ทำให้เกิดอาการหอบหืด หรือหมดสติได้  

หากท่านเป็นผื่นลมพิษ  ควรสังเกตตนเองว่าเกิดจากสาเหตุอะไร   ผื่นขึ้นหลังกินยา หรือกินอาหารชนิดใด  ทำกิจกรรมอะไร หรือเกิดขึ้นช่วงเวลาไหนของวัน   หากพบว่าเกิดจากสาเหตุใด  ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะทำให้ผื่นลมพิษสงบลงหรือหายขาดได้     แต่ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ หรือเป็นสาเหตุที่แก้ไขยากหรือแก้ไขไม่ได้จะทำให้เกิดผื่นลมพิษเรื้อรังเป็นๆ หายๆ   ควรพบแพทย์ เพื่อพิจารณาใช้ยาควบคุมอาการซึ่งควรปฏิบัติตัวและกินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด   หากยาทำให้เกิดอาการง่วง ซึม รบกวนการทำงาน  ควรบอกแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา  ผู้ป่วยควรพกยาติดตัวไว้เสมอเพื่อใช้ทันทีเมื่อเกิดอาการได้  อย่างไรก็ตามผื่นลมพิษชนิดเรื้อรังส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง  จึงไม่ควรวิตกกังวลเกินไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น