ผิวหนัง เป็นอวัยวะสำคัญที่ห่อหุ้มร่างกายและคอยป้องกันอันตรายต่างๆ โดยส่งสัญญาณบอก เช่น ความเจ็บปวด ร้อน หนาว น้ำหนักกดทับ แรงกระแทก หรืออื่นๆ เพื่อเตือนให้เราสามารถต่อสู้ หรือหลีกหนีภัยอันตรายต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผิวหนังคนเราประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญคือ ชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ จากนั้นก็จะเป็นชั้นไขมัน หนังกำพร้าเป็นชั้นนอกสุดที่ต้องสัมผัสกับสิ่งแวดล้อม จึงมีการผลัดผิวตลอดเวลาเซลล์ผิวใหม่จะเกิดที่ชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า และเซลล์ผิวชั้นบนสุดก็จะถูกหลุดออกเป็นสะเก็ดผิวหนัง หรือขี้ไคลในที่สุด
หนังศีรษะก็เช่นเดียวกัน “รังแค” ก็คือเซลล์ของหนังศีรษะที่ตายแล้วและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นกระจายอยู่ทั่วไปบนหนังศีรษะ มักออกมาเป็นกลุ่มๆ การเกิดรังแคมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น อากาศแห้งและเย็นในหน้าหนาวทำให้หนังศีรษะแห้งเกิดรังแคได้ง่าย การใช้แชมพูที่แรงเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ดัด ยืด กัดหรือเปลี่ยนสีผม ทำให้สารเคมีตกค้างบนหนังศีรษะ เกิดการแพ้ ระคายเคือง อักเสบเป็นแผล หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อราบนหนังศีรษะก็ได้
การแก้ปัญหารังแค จึงควรแก้ที่สาเหตุ หากเกิดจากสารเคมี ก็ควรหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีกับเส้นผม ถ้าเกิดจากการใช้แชมพูก็ควรต้องเปลี่ยนแชมพู โดยอ่านฉลากสินค้าให้ละเอียดก่อนซื้อใช้ ส่วนในหน้าหนาวอย่างเวลานี้อาจต้องลดความถี่ในการสระผมลงก็จะช่วยลดรังแคได้ แต่หากยังมีรังแคมากจนขาดความมั่นใจ ลองหาซื้อแชมพูยาขจัดรังแค ที่มีส่วนผสมของ Zinc pyrithione, selenium sulfideหรือ Ketoconazole มาใช้ดู ตัวยาในแชมพูจะช่วยชะลอการแบ่งตัวของเซลล์หนังศีรษะ ต้านเชื้อราหรือแบคทีเรียลงได้ การใช้แชมพูยายี่ห้อใดก็ตาม ถ้าจะให้ได้ผล ต้องปล่อยแชมพูไว้บนหนังศีรษะประมาณ 5 นาทีก่อนล้างออก
แต่หากใช้แชมพูขจัดรังแคแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรักษาอย่างถูกต้องต่อไปนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น