ในประเทศไทยแต่ละปีจะมีทารกคลอดก่อนกำหนดประมาณ 64,000-80,000 คน ทารกน้อยจำนวนนี้ อยู่ในภาวะวิกฤติต้องรักษาในห้องไอซียู ปีละกว่า 11,000 ราย การคลอดก่อนกำหนดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทารกแรกเกิดเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า หรืออาจเกิดปัญหาเชาว์ปัญญาต่ำอีกด้วย
การ “คลอดก่อนกำหนด” คือการคลอดก่อนที่อายุครรภ์จะครบ 37สัปดาห์ ซึ่งร่างกายของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ จึงเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา เช่น การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การติดเชื้อในระบบต่างๆ ปัญหาการหายใจ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โลหิตจาง ตัวเหลือง เลือดออกในสมอง ปัญหาการมองเห็น ลำไส้อักเสบรุนแรง การดูดกลืนนมไม่ได้ หรืออื่นๆ จำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานานภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลที่มีความชำนาญเฉพาะและต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ราคาแพง จึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อครอบครัวทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ จึงมีพระดำริให้จัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนดทุกปี โดยทางโรงพยาบาลลำปางจะจัดกิจกรรม สัปดาห์รณรงค์ป้องกันทารกคลอดก่อนกำหนด ในหัวข้อ “ต้นกล้าแห่งชีวิต ทารกเกิดก่อนกำหนด” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน2556 นี้ ณ บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 1 ตึกสิทธิเกษม ในงานจะมีนิทรรศการความรู้เรื่อง การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด การฝากครรภ์ยุคใหม่โดยเริ่มตั้งแต่ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด เช่น หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อยกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี หญิงตั้งครรภ์ที่มีการอักเสบในช่องปาก ตั้งครรภ์แฝด มีประวัติดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาหญิงตั้งครรภ์และสามีในเรื่อง การดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน การดูแลตนเองเรื่องอาหาร สุขภาพช่องปาก การปฏิบัติตัวขณะคลอด ตลอดจนถึงการดูแลทารกคลอดก่อนและการประเมิน ติดตามพัฒนาการทารกด้วย
การตั้งครรภ์ก่อเกิดชีวิตน้อยๆ เป็นนิมิตดี จะมีวิธีการดูแลครรภ์อย่างไร? ให้ร่างกายลูกน้อยมีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์ จนอายุครรภ์ครบกำหนดและลูกน้อยพร้อมที่จะออกมาเผชิญโลกกว้างได้ จึงขอเชิญคุณพ่อ คุณแม่ที่คิดจะมีลูก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ รวมถึงท่านที่สนใจร่วมเรียนรู้ได้ในกิจกรรมนี้นะคะ
ที่มา .... กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลลำปาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น