วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ดื่มนมแล้วท้องเสีย จะทำอย่างไร ?

ดื่มนมแล้วท้องเสีย จะทำอย่างไร ?

น้ำนมสัตว์  ธรรมชาติมีไว้สำหรับเลี้ยงลูกน้อยให้เจริญเติบโตในช่วงวัยที่ยังหากินเองไม่ได้   จึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย  ทั้งโปรตีน  วิตามีน  เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต และไขมัน   ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ ร่างกายคนเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้    ทำให้สุขภาพแข็งแรงหากดื่มเป็นประจำ   นมจึงเป็นอาหารที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง    ซึ่งองค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ   เห็นความสำคัญและสนับสนุนให้ดื่มจนมีการกำหนดวันดื่มนมโลกขึ้น
แต่หลายคนมีปัญหา คือดื่มนมแล้วเกิดอาการท้องเสีย  จึงหลีกเลี่ยงไม่ดื่มนมเลย    ซึ่งนับว่า   เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสม    เพราะทำให้ร่างกายขาดโอกาสในการได้รับสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะแคลเซียม  ที่ถือว่านมเป็นแหล่งอาหารที่ให้แคลเซียมมากที่สุด   โดยร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย เพียงแค่ดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว ก็จะได้รับแคลเซียมเพียงพอกับความต้องการของร่างกายแล้ว   ซึ่งต่างจากการกินอาหารอื่นเพื่อให้ได้แคลเซียมเพียงพอ   ที่ต้องกินอาหารจำนวนมากและต้องกินทุกวัน    จึงเป็นไปได้ยากเมื่อเปรียบเทียบกับการดื่มนมซึ่งง่ายและสะดวกกว่า

แต่บางคนดื่มนมแล้วเกิดอาการท้องเสีย  แล้วจะทำอย่างไร ?   สาเหตุที่ดื่มนมแล้วเกิดอาการท้องอืด  เฟ้อ  จุกเสียด  แน่นในท้อง  ผายลมบ่อยๆ  ลำไส้ปั่นป่วน หรือท้องเสียนั้น    เนื่องจากในน้ำนมของสัตว์ทุกชนิดทั้งนมคน  นมวัว หรืออื่นๆ  มีน้ำตาลแลคโตสเป็นส่วนประกอบ   โดยคนเราจะมีน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลแลคโตสนี้กันทุกคนเมื่อแรกเกิด   แต่พออายุประมาณ 4-5 ปีขึ้นไป   น้ำย่อยนี้จะค่อยๆ ลดลง และหมดไปในคนที่ไม่ได้ดื่มนมอีก   ซึ่งในคนกลุ่มนี้เมื่อกลับมาดื่มนมใหม่  ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลในนมหรือน้ำตาลแลคโตสได้     เมื่อนมไหลผ่านไปถึงลำไส้ใหญ่   จึงถูกจุลินทรีย์ในลำไส้ย่อยสลาย   เกิดกรดหรือแก๊สขึ้น  จึงเกิดอาการไม่สบายในท้อง หรือท้องเสียได้

วิธีแก้ปัญหาอาการท้องเสียเมื่อดื่มนมคือ การดื่มนมวันละน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นในวันต่อๆ มา   โดยควรดื่มหลังอาหาร หรือดื่มร่วมกับอาหารว่างอื่น ไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง   ซึ่งจะสามารถหลีกเลี่ยงอาการไม่สบายในท้องต่างๆ ได้  แต่หากทำตามข้อแนะนำแล้วยังเกิดปัญหาอยู่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมไปก่อน   แล้วหันมากินโยเกิร์ตแทน  เพราะในโยเกิร์ตมีการเติมเชื้อจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสเรียบร้อยแล้ว   เมื่อเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง  จึงค่อยกับมาลองดื่มนมสดใหม่   ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย และแคลเซียมเพียงพอ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น