ดูแลผู้สูงวัยด้วยความใส่ใจ
ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนของทุกปี เราจะมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นจากผู้ที่เกษียณอายุการทำงาน เป็นโอกาสดีที่ได้พักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชอบได้มากขึ้น บางคนเลือกที่จะทำงานอดิเรกอยู่กับบ้าน หรืออาจเลือกเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มต่างๆ ทำให้ไม่เหงา มีเพื่อนและมีความสุข บางคนก็เลือกใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ปลูกผักทำสวนใช้ชีวิตแบบพอเพียง ปฏิบัติธรรม หรือมีโอกาสท่องเที่ยว ทำให้ผู้สูงอายุมีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีสูงอายุอีกมากที่ต้องการดูแลใส่ใจจากลูกหลาน
ปัจจุบันแนวโน้มของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น การดูแลทางด้านโภชนาการ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ การที่ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารน้อยหรือมากเกินไป จะมีผลต่อการเกิดโรคเรื้อรังตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง และอื่นๆ สำหรับผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง ลูกหลาน ผู้ดูแลควรใส่ใจจัดหาอาหารให้เหมาะกับโรคให้มากขึ้น ปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุได้แก่ กินอาหารได้น้อยลง รู้สึกไม่เจริญอาหาร ปัญหานี้มาจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาเหงือกและฟัน ทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก จึงควรดูแลเรื่องความสะอาดช่องปาก จัดหาฟันปลอมให้เหมาะสม ปัญหาปุ่มรับรสอาหารที่ลิ้นเสื่อมและมีจำนวนลดลงทำให้กินอาหารได้น้อย และปลายประสาทรับกลิ่นในจมูกทำหน้าที่ได้ไม่ดี รวมทั้งความวิตกกังวลใจต่างๆ ของผู้สูงอายุ จากสมรรถภาพของร่างกายที่ลดลง ผู้ดูแลควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
สารอาหารที่ผู้สูงวัยต้องการไม่แตกต่างจากวัยหนุ่มสาว เพราะร่างกายยังต้องการทั้งอาหารประเภทข้าวแป้ง โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไขมัน เพียงแต่จะลดปริมาณลงบ้าง ผู้สูงวัยยังจำเป็นต้องรับประทานผักและผลไม้ เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่จะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เป็นสารต้านมะเร็ง และมีกากใยที่เป็นประโยชน์สำหรับระบบการย่อยและขับถ่าย อาจเลือกผักหั่นเป็นชิ้นเล็กที่ทำให้สุกจนนิ่ม อาหารสำหรับผู้สูงวัยในแต่ละมื้อควรให้ได้ครบ 5 หมู่ มีความหลากหลายและพอเพียง เหมาะกับสภาพร่างกายและปัญหาสุขภาพ หรือโรคที่เป็นอยู่ และควรส่งเสริมให้ผู้สูงวัยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามสภาพร่างกาย รับแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า-เย็น พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และหาโอกาสท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ไปวัดทำบุญ อยู่ท่ามกลางลูกหลาน ครอบครัวที่อบอุ่น บรรยากาศที่มีความสุข รู้สึกมีคุณค่า จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยได้ค่ะ
ที่มา .… กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลลำปาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น