วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ระวังหูดับ เพราะหมู

ระวังหูดับ เพราะหมู

ระวังหูดับ เพราะหมู
ภัยที่มากับอาหารการกินนั้นมีมากมาย   ทั้งเชื้อโรค  เชื้อรา  พยาธิ   รวมถึงสารเคมีต่างๆ  ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ทั้งสิ้น   อย่างอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของเราที่นิยมกันมาก เช่น  แหนม  ลาบ  หลู้  ซึ่งเดี๋ยวนี้มักจะทำจากหมูเพราะราคาถูกกว่าเนื้อ   ส่วนใหญ่มักกินแบบดิบๆ หรือ สุกๆ ดิบๆ    โดยให้เหตุผลว่าอร่อยกว่าที่ทำให้สุก    และเชื่อว่าเครื่องปรุงต่างๆ   เช่น  พริก  เกลือ  เครื่องเทศ   น้ำมะนาว หรือเหล้าสามารถฆ่าเชื้อโรคและพยาธิได้   ความเชื่อนี้จึงเป็นเหตุให้มีผู้ป่วย โรคไข้หูดับอย่างต่อเนื่อง  โดยข้อมูลของกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง   สำนักควบคุมโรค เขต 10  เชียงใหม่ระบุว่า  ตั้งแต่วันที่ มกราคม – 31 สิงหาคม 2556 หรือเดือนที่ผ่านมาภาคเหนือตอนบนของเรา  พบผู้ป่วยโรคหูดับทั้งหมด 27 ราย  ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 45 ปี

โรคหูดับ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตปโตค็อกคัส ซูอิส   ซึ่งเชื้อนี้ปกติจะอยู่ในโพรงจมูกหมู    เมื่อหมูอ่อนแอจากการเลี้ยงดูไม่เหมาะสม  คอกสกปรก    แออัด  ยัดเยียด    ทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นไปตามกระแสเลือด      เมื่อคนนำหมูนี้มาบริโภค   เชื้อก็เข้าสู่ร่างกายคนจากการกินหมูโดยไม่ผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคให้ตาย หรือเข้าทางผิวหนังจากบาดแผล  รอยถลอก  เยื่อบุตาโดยการสัมผัส จากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจนานถึง วัน    เชื้อจะไปตามกระแสเลือดและมีผลต่ออวัยวะภายใน  สมอง  ตับ  ไต  หัวใจ  ปอด  ผู้ป่วยจะมีอาการไข้  ปวดศีรษะ คอแข็ง   ประสาทการทรงตัวเสียไป    บางรายเยื่อบุหัวใจ  ปอดอักเสบ  สายตาพร่ามัว มีโอกาสหูหนวกถาวร   รายที่รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ  การนำเนื้อหมูมาปรุงเป็นอาหาร ต้องแน่ใจว่าปรุงสุกจริงๆ   คนชอบกินหมูกระทะ  หมูย่าง  แหนม  ลาบ  หลู้  พึงระวังอาจมีโอกาสติดเชื้อได้  สำหรับผู้เลี้ยง  ผู้ชำแหละ หรือผู้สัมผัสเนื้อสัตว์ ควรสวมถุงมือทุกครั้งป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย    หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด   และถ้ามีอาการป่วย  เช่น  ไข้สูง ปวดศีรษะหลังกินหมู  สัมผัสหมูภายใน 3  วัน  ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตหรือหูหนวกได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น