ภาวะน้ำท่วมขังอาจทำให้มีการแพร่ระบาดของ“โรคฉี่หนู”หรือ“โรคเลปโตสไปโรซิส” โดยเชื้อโรคจะปนเปื้อนมากับน้ำ และบางสภาวะเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำที่ท่วมขังได้นานหลายเดือน โรคฉี่หนูเกิดจากเชื้อแบคทีเรียรูปเกลียวชื่อ“เลปโตสไปร่า” โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดเป็นพาหะ เช่น หนู สุกร โค กระบือ สุนัข โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนูซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคที่สำคัญที่สุด ชื่อของโรคนี้ก็มีที่มาจากเหตุนี้นั่นเอง โดยเชื้อนี้จะอยู่ในไตของหนูและถูกขับออกมากับฉี่ของมัน มาปนเปื้อนกับน้ำ โดยเฉพาะในกรณีที่มีน้ำท่วมขัง เมื่อเราเดินย่ำน้ำ เชื้ออาจไชเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลเล็ก ๆ ที่เท้า และยังสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยหรือแช่น้ำนาน ๆ จะมีโอกาสติดเชื้อฉี่หนูสูง
โรคฉี่หนูจะใช้เวลาในการฟักตัว ๑ - ๒ สัปดาห์หรือบางครั้งอาจนานถึง ๓ สัปดาห์ ผู้ที่ได้รับเชื้ออาจมีหรือไม่มีอาการก็ได้ กรณีที่มีอาการแสดงออกผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณหลัง น่อง และต้นคอ หรืออาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไอ หรืออาการอื่นคล้ายไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถ้าติดเชื้อแล้วรีบมารับการรักษาก็จะหายจากโรคนี้ได้อย่างรวดเร็ว
มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่อาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตาเหลือง ตัวเหลือง ไขสันหลังหรือสมองอักเสบ ความดันโลหิตต่ำ เลือดออกผิดปกติ แม้จะพบน้อยแต่ก็มีความสำคัญและอาจทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นหากป้องกันได้ก็ควรป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ เช่น ถ้ามีบาดแผลหรือรอยถลอกก็ควรงดลงน้ำ ถ้าต้องเดินลุยน้ำก็ให้สวมชุดป้องกัน สวมรองเท้าบู๊ต และอย่าให้น้ำขังในรองเท้านาน ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเกิดขึ้น และสังเกตอาการของตนเองและครอบครัว ถ้าผู้ใดเป็นไข้สูงให้รีบไปพบแพทย์ นอกจากนั้นการป้องกันด้านสุขอนามัยก็สำคัญไม่น้อย เช่น ควรเก็บอาหารไว้ในที่มิดชิด ล้างภาชนะใส่อาหารให้สะอาดก่อนใช้ทุกครั้ง และกินอาหารที่อุ่นร้อน จะเห็นได้ว่าแม้โรคฉี่หนูเป็นอันตรายร้ายแรงแต่การป้องกันและรักษาก็ทำได้ไม่ยากนักนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น