โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย และยังเป็นปัญหาสุขภาพที่ความทันสมัยไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่อาจเป็นสาเหตุเสียด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันสมุนไพรที่ใช้กันมาอย่างยาวนานกว่า 4 พันปีของสังคมมนุษย์กลับกลายเป็นความหวังที่สำคัญนั่นคือ ขมิ้นชัน ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันมายาวนานของคนไทย ระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมามีรายงานการศึกษาวิจัยของขมิ้นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษามะเร็งนับร้อยเรื่องจนมีคำกล่าวว่า “ การกินขมิ้นชันวันละ 1 ช้อนชา ทำให้ห่างไกลจากการเป็นมะเร็ง " สารในขมิ้นชันยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ขมิ้นชันยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้กลไกที่ทำให้เซลล์ตายเป็นปกติ หยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ขมิ้นชันยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมี(คีโม) และช่วยให้การรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีมีประสิทธิภาพขึ้น โดยขมิ้นชันช่วยให้เซลล์มะเร็งไวต่อการฉายรังสีมากขึ้น ขณะเดียวกันยังป้องกันเซลล์ปกติไม่ให้ถูกทำลายโดยรังสีได้อีกด้วย ขมิ้นชันอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันมาอย่างยาวนาน มีความปลอดภัยสูง สามารถกินได้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายอีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้ขมิ้น
1. ผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตันนั้นไม่ควรกินขมิ้นชัน เพราะอาจทำให้น้ำดีซึ่งหลั่งออกมามากจากการกินขมิ้น แล้วตกตะกอนในถุงน้ำดี อาจทำให้อุดตันมากยิ่งขึ้น ปวดมากขึ้น(แต่คนปกติการกระตุ้นการหลั่งน้ำดีจะป้องกันการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี)
2. ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาวาร์ฟาริน เพราะจะเสริมฤทธิ์กัน ทำให้เลือดไหลมากกว่าเดิม
ขมิ้นชันไม่ใช่ยารักษามะเร็ง แต่เป็นสมุนไพรเครื่องเทศที่ใส่ลงไปในอาหารในชีวิตประจำวัน จากการศึกษาวิจัยที่ไม่พบความเป็นพิษ สามารถปลูกได้ทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ มีข้อมูลศึกษาวิจัยใหม่ ๆ ที่บอกว่าขมิ้นชันมีประโยชน์ทั้งทางด้านป้องกันและรักษามะเร็ง คนไทยกินขมิ้นชันกันเป็นประจำอยู่แล้ว จึงน่าจะส่งเสริมให้คนไทยกินขมิ้นชัน ด้วยการตระหนักถึงคุณค่าของขมิ้นชันในมิติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านการต้านมะเร็ง ไม่ใช่เฉพาะเพื่อการเป็นเครื่องเทศ แต่งสี แต่งกลิ่นเพียงอย่างเดียว ดังคำกล่าวของสมาคมพฤกษศาสตร์อเมริกาที่ว่า “ ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนเราจะไม่กินขมิ้นชันทุกวัน ถ้าคนคนนั้นไม่ได้เป็นนิ่วในถุงน้ำดีหรือกินยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดอยู่ ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น